A:"แพทย์" คือ ผู้ตรวจค้นโรคและความผิดปกติของร่างกาย จิตใจ สั่งยา ให้การรักษา มีบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสุขภาพของประชาชน ในทุกๆด้านด้วยกัน
Q;ทำไมถึงอยากเป็นแพทย์?
A:เพราะแพทย์ หรือที่เรียกว่าหมอนั้น เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ต้องเสียสละตนเป็นอย่างมากเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คนให้หายจากโรคภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในสาขาใดๆก้ตาม อีกทั้งยังต้องศึกษาวิชาความรู้เพื่อที่จะนำมาใช้ช่วยเหลือผู้คนอีกด้วย ในตัวผมนั้น อยากที่จะทำประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ตนจะทำได้ จึงอยากเป็นแพทย์ โดยเมื่อมีเงินจนถึงจุดๆหนึ่งแล้ว ผมจะทำการเปิดมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้คน และนั่นคือความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม
Q:เป็นแพทย์ต้องทำอะไรกันน่ะ?
A:ตรวจผู้ป่วยและตรวจทางเอ็กซเรย์หรือการทดสอบพิเศษ พิจารณาผลการตรวจและผลการทดสอบ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางตามความจำเป็น และวินิจฉัยความผิดปกติ สั่งยา ทำการผ่าตัดเล็กหรือการรักษาอย่างอื่น และแนะนำผู้ป่วยในเรื่องการปฏิบัติตนที่จำเป็นสำหรับการทะนุถนอมสุขภาพหรือการกลับคืนสู่สภาพปกติ
Q:ถ้าอยากเป็นแล้วควรจะมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
A:หากอยากเป็นอาชีแพทย์ที่มีความรับผิดชอบสูงแล้ว ควรจะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. สำเร็จการศึกษาทางสาขาวิชาแพทย์ศาสตร์
2. ขยันสนใจในการศึกษาหาความรู้ทางวิทยาการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี 3. มีสุขภาพสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย และจิตใจไม่พิการ ปราศจากโรค
4. สามารถอุทิศตนยอมเสียสละเวลา และความสุขส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่เจ็บป่วย มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่รังเกียจผู้เจ็บป่วย มีความเมตตา และมีความรักในเพื่อนมนุษย์มีความเสียสละที่จะเดินทางไปรักษาพยาบาลผู้คนในชุมชนทั่วประเทศ
5. มีมารยาทดี สามารถเข้ากับบุคคลอื่นได้ทุกระดับมีความอดทน อดกลั้น และมีความกล้าหาญ
6. มีความซื่อสัตย์ในวิชาชีพของตน มีคุณธรรมและจริยธรรมทางการแพทย์ ไม่ใช้ความรู้ทางวิชาการของตนไปหลอกลวงหรือทำลายผู้อื่น
Q:การศึกษาและการฝึกอบรมจะต้องเรียนอย่างไร?
A:ศึกษาหลักสูตรแพทย์ศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของรัฐ โดยผ่านการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา โดยมีรายละเอียดของคุณสมบัติของผู้สมัคร การสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ การตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพจิตที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
A:ศึกษาหลักสูตรแพทย์ศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของรัฐ โดยผ่านการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา โดยมีรายละเอียดของคุณสมบัติของผู้สมัคร การสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ การตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพจิตที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
Q:สถาบันที่เปิดสอนคณะและวิทยาลัยแพทยศาสตร์มีอะไรบ้าง?
A:สถาบันทั้งหมดที่เปิดสอนคณะแพทยศาสตร์มีทั้งหมด ดังนี้
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
Q:แล้วแขนงต่างๆของแพทย์ล่ะ?
A:เเพทย์นั้นมีมากมายหลายแขนงแล้วแต่ที่บุคคลชอบที่จะเรียนให้ลึกเข้าไป มีดังนี้
1.อายุรแพทย์
2.สูตินรีแพทย์
3.ศัลยแพทย์
4.ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์
5.จักษุแพทย์
6.จิตแพทย์
7.แพทย์โสตศอนาสิก
8.พยาธิแพทย์
9.รังสีแพทย์
10.วิสัญญีแพทย์
11.กุมารแพทย์
12.แพทย์เวชปฏิบัติครอบครัว
13.แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
14.แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
Q:โอกาสในการมีงานทำมีหรือไม่?
A:อาชีพแพทย์ถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและมีการเสียสละสูง สามารถรับราชการโดยทำงานในโรงพยาบาล หรือหน่วยงานการแพทย์ หรือทำงานในโรงพยาบาลเอกชน นอกจากนี้ยังสามารถทำรายได้พิเศษด้วยการเปิดคลีนิคส่วนตัวได้อีก แนวโน้มของตลาดแรงงานยังคงมีอยู่ ดังนั้นจึงสามารถหางานทำได้ง่าย เนื่องจากประเทศไทยยังขาดแคลนแพทย์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
Q:สภาพการจ้างงานเป็นอย่างไร?
A:ผู้ประกอบอาขีพนี้ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน ตามวุฒิการศึกษา สำเร็จการศึกษาวิชาการแพทย์ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมีอัตราเงินเดือน ดังนี้
หน่วยงาน วุฒิการศึกษา
ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก
ราชการ 8,190 9,500 - 10,500 15,000 - 16,000
รัฐวิสาหกิจ 9,040 15,000 - 12,000 23,000 - 24,500
เอกชน 10,600 21,000 - 22,000 28,000 - 30,000
ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง อาจต้องมาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด อาจจะต้องมีการจัดเวรอยู่ประจำโรงพยาบาล อาจได้รับผลตอบแทนในรูปอื่น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินสะสม เงินโบนัส เป็นต้น สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาแพทย์สามารถประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยรายได้ที่ได้รับขึ้นอยู่กับความสามารถ และความอุตสาหะ
หน่วยงาน วุฒิการศึกษา
ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก
ราชการ 8,190 9,500 - 10,500 15,000 - 16,000
รัฐวิสาหกิจ 9,040 15,000 - 12,000 23,000 - 24,500
เอกชน 10,600 21,000 - 22,000 28,000 - 30,000
ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง อาจต้องมาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด อาจจะต้องมีการจัดเวรอยู่ประจำโรงพยาบาล อาจได้รับผลตอบแทนในรูปอื่น เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินสะสม เงินโบนัส เป็นต้น สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาแพทย์สามารถประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยรายได้ที่ได้รับขึ้นอยู่กับความสามารถ และความอุตสาหะ
Q:โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพมีมากแค่ไหนกัน?
A:แพทย์ที่มีความชำนาญบวกกับประสบการณ์จะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งจนถึงระดับผู้บริหารหากมีความสามารถในการบริหาร หรืออาจประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยเปิดคลีนิครับรักษาคนไข้ทั่วไป หรือสำหรับผู้ที่มีความชำนาญและมีทีมงานที่มีความสามารถ รวมทั้งมีเงินทุนจำนวนมากก็สามารถ เปิดโรงพยาบาลได้ แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง อาจได้รับการว่าจ้างให้ไปทำงานในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลหลายแห่ง ทำให้ได้รับรายได้มากขึ้นก็ได้เช่นกัน
